สาดน้ำกรดใส่ผู้อื่น
👿☠▪กรณีน้ำกรดมีปริมาณน้อย เป็นเจตนาทำร้าย
หากหน้าเสียโฉมอย่างติดตัว จำเลยผิด ม.297(4) #แต่หากทำศัลยกรรมตกแต่งให้กลับมาสวยดังเดิม ประกอบกับได้รับบาดเจ็บปวดแสบปวดร้อนที่ใบหน้าอย่างรุนแรงเกิน 20 วัน ถือเป็นการบาดเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาตาม ม.297(8) การเตรียมน้ำกรดมาเพื่อใช้สาดใส่ผู้อื่นเป็นการไตร่ตรองตาม ม.289(4) จึงต้องรับผิดตาม ม.298
👿☠▪กรณีน้ำกรดปริมาณมาก เป็นเจตนาฆ่า
1.)ผู้ถูกกระทำ #ถึงแก่ความตาย ผู้ตายย่อมต้องได้รับความลำบากและเจ็บปวดอย่างทรมานแสนสาหัสจากบาดแผลที่ได้รับ จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยทรมานและทารุณโหดร้ายตาม ม.289(5)
2.)ผู้ถูกกระทำ #ไม่ตาย จำเลยต้องรับผิดฐานพยายามฆ่า โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตาม ม.289 (4)
ศึกษาจากคำพิพากษาศาลฎีดาต่อไปนี้
📚คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5201/2555
แม้น้ำกรดจะมิใช่อาวุธโดยสภาพ แต่ก็เป็นสารเคมีชนิดกรดเกลือซึ่งมีคุณสมบัติกัดกร่อนชนิดรุนแรงที่ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต เมื่อจำเลยใช้ราดใส่ร่างกายของผู้ตายจนเป็นเหตุให้มีบาดแผลไหม้พองสุกลอกเกือบหมด บางส่วนด้านแข็งที่บริเวณใบหน้า ลำคอ ทรวงอก ลิ้นปี่ แผ่นหลัง บั้นเอว ก้นกบ แขนและมือ ซึ่งเป็นบาดแผลที่ปรากฏภายนอกเกือบทั่วทั้งร่างกายของผู้ตาย ย่อมบ่งชี้ได้ว่าน้ำกรดที่จำเลยใช้นั้นมีปริมาณไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาเหตุ #การตายของผู้ตายก็เนื่องจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลวจากสารเคมีทำลายผิวหนัง และผู้ตายถึงแก่ความตายในคืนเกิดเหตุนี้เอง อันเป็นผลโดยตรงมาจากน้ำกรดซึ่งจำเลยกระทำไปโดยรู้สำนึก และในขณะเดียวกันย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ โดยก่อนถึงแก่ความตายนั้น ผู้ตายย่อมต้องได้รับความลำบากและเจ็บปวดอย่างทรมานแสนสาหัสจากบาดแผลที่ได้รับ จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยทรมานและทารุณโหดร้ายตาม ป.อ. มาตรา 289(5)
📚คำพิพากษาฎีกาที่ 9711 / 2557
แม้น้ำกรด จะไม่ใช่อาวุธโดยสภาพแต่ก็เป็นสารเคมีชนิดกรดเกลือ ซึ่งมีคุณสมบัติกัดก่อนชนิดรุนแรงที่ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต น้ำกรดที่จำเลยที่ 1 นำมาสาดใส่โจทก์ร่วมทั้ง 3 นอกจากจะมีความเข้มข้นสูงแล้วยัง #มีปริมาณมาก ทำให้โจทก์ร่วมที่ 1 มีบาดแผลถึง 20% ของร่างกาย จำเลยที่ 1 ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าการกระทำของตนกับพวกเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมทั้ง 3 ถึงแก่ความตายได้ การที่จำเลยที่ 1 กับพวกเตรียมน้ำกรดมาเพื่อสาดใส่โจทก์ร่วมทั้ง 3 จึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน #เมื่อโจทก์ร่วมทั้ง3ไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าโจทก์ร่วมทั้ง 3 โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (4) ประกอบมาตรา 80 แล้วต้องใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ร่วมทั้ง
3
คดีอนาจาร คดีข่มขืน ยักยอก ฉ้อโกง
การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน
ตรวจร่างสัญญา จัดทำสัญญากู้ยืม สัญญาซื้อขาย ฯลฯ
รับจัดตั้งผู้จัดการมรดก พินัยกรรม รับทำคดียาเสพติด
3
สำนักงานกฎหมายพรเพ็ญ ทนายความ
รับปรึกษา ดำเนินคดี ทางแพ่ง ทางอาญาคดีอนาจาร คดีข่มขืน ยักยอก ฉ้อโกง
การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน
ตรวจร่างสัญญา จัดทำสัญญากู้ยืม สัญญาซื้อขาย ฯลฯ
รับจัดตั้งผู้จัดการมรดก พินัยกรรม รับทำคดียาเสพติด